ท้องฟ้าจำลองจูเนียร์
วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557
นวัตกรรมการศึกษา
นวัตกรรมการศึกษา
ข่าวนวัตกรรมการศึกษา (รถไฮโดรเจนจิ๋ว)
ชุดคิต
"รถไฮโดรเจนจิ๋ว" สื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนรูปแบบใหม่จาก
"ฮอริซอน" ผู้ผลิตเซลล์เชื้อเพลิงระดับโลก หวังกระตุ้นต่อมความคิดเยาวชนไทยให้ริเริ่มสร้างสรรค์-ต่อยอดนวัตกรรมสำหรับโลกอนาคตที่ไร้น้ำมันเชื้อเพลิง
พร้อมเตรียมร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยในไทยพัฒนานวัตกรรมเซลล์เชื้อเพลิงของคนไทย
นายยศวัจน์ จิรโชคชัยวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮอริซอน เมโทรโพลิส จำกัด ผู้นำเข้านวัตกรรมแห่งการเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีพลังงานทดแทน เปิดเผยว่า บริษัทได้นำเข้าชุดสื่อการเรียนการสอนเซลล์เชื้อเพลิงในรูปแบบชุดจำลองรถต้นแบบพลังงานไฮโดรเจน (H-racer) ซึ่งจะช่วยให้เด็กและเยาวชนไทยรู้จักและทำความเข้าใจกับหลักการของเซลล์เชื้อเพลิงและรถพลังงานไฮโดรเจนได้ง่ายขึ้น รวมถึงชุดสื่อการสอนพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบต่างๆ ทั้งพลังงานลม น้ำ และแสงอาทิตย์ ชุดสื่อการเรียนรู้ H-racer ประกอบด้วยรถขนาดจำลองที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงไฮโดรเจน, เซลล์เชื้อเพลิงชนิดแลกเปลี่ยนโปรตอน (PEMFC) ขนาดไม่ถึง 1 วัตต์ ภายในตัวรถ และสถานีไฮโดรเจนพร้อมแผงโซลาร์เซลล์ขนาด ซึ่งจำลองมาจากรถเซลล์เชื้อเพลิง และสถานีผลิตไฮโดรเจนจากน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่เริ่มมีการนำมาใช้จริงในบางประเทศแล้วขณะนี้ นายยศวัจน์อธิบายหลักการใช้งานชุดการเรียนรู้ H-racer ว่า เมื่อเติมน้ำลงในสถานีไฮโดรเจน และให้แผงโซลาร์เซลล์ได้รับแสงแดดเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าไปแยกน้ำให้ได้เป็นก๊าซไฮโดรเจนและออกซิเจน จากนั้นเติมไฮโดรเจนเข้าสู่ถังเก็บไฮโดรเจนที่อยู่ในตัวรถเซลล์เชื้อเพลิง เพื่อทำให้รถเคลื่อนที่ได้แทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งชุดสื่อการเรียนรู้นี้จะช่วยให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทำงานของรถพลังงานไฮโดรเจน เซลล์เชื้อเพลิง และการแยกไฮโดรเจนจากน้ำด้วยกระแสไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น ทั้งยังมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากมีปริมาณไฮโดรเจนน้อยมาก "จุดมุ่งหมายสำคัญของการนำเข้าชุด H-racer คือใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน เพื่อให้เด็กไทยได้ศึกษาเทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจน และเกิดความคิดต่อยอดเป็นนวัตกรรมที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนและเซลล์เชื้อเพลิงขึ้นในอนาคต เช่น รถเซลล์เชื้อเพลิง หรือโรงไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน เนื่องจากเป็นพลังงานสะอาดไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม มีน้ำเป็นแหล่งพลังงานอย่างเหลือเฟือ และการผลิตไฮโดรเจนจากน้ำยังช่วยเพิ่มออกซิเจนในบรรยากาศด้วย ตลอดจนปลูกฝังให้เยาวชนตระหนักถึงการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน" นายยศวัจน์บอกกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ อีกทั้งปัจจุบันในประเทศไทยมีโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งที่มีไฮโดรเจนเป็นของเสียและปล่อยทิ้งสู่บรรยากาศเป็นจำนวนหลายล้านตันต่อวัน ซึ่งนายยศวัจน์บอกว่าไฮโดรเจนเหล่านั้นสามารถนำมาใช้ป้อนเป็นพลังงานให้กับเซลล์เชื้อเพลิงได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์กัน ทั้งที่ในบางประเทศได้เริ่มนำพลังงานไฮโดรเจนมาใช้เป็นพลังงานทดแทนกันแล้ว เช่น เยอรมนี แคนาดา และสหรัฐฯ และจะยิ่งมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในอนาคต โดยเชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีจะเริ่มมีรถพลังงานไฮโดรเจนเข้ามาจำหน่ายในไทย ขณะที่แผนพัฒนาพลังงาน 15 ปี ของไทยกำหนดให้เริ่มใช้พลังงานไฮโดรเจนเป็นพลังงานทดแทนในปี 2562 จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ไทยจะต้องส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจนกันอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ และควรเริ่มตั้งแต่การให้การศึกษาแก่เยาวชนตั้งแต่ในโรงเรียน เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่เยาวชนจะสามารถต่อยอดเป็นเทคโนโลยีได้ในอนาคต นอกจากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทฮอริซันยังได้เซ็นสัญญาร่วมมือวิจัยกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เป็นระยะเวลา 1 ปี ในการพัฒนาประสิทธิภาพพลังงานไฮโดรเจนจากไฮโดรเจนที่เหลือทิ้งหรือได้จากกระบวนการต่างๆ และในอนาคตยังวางแผนที่จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมเซลล์เชื้อเพลิงและพลังงานไฮโดรเจน เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่เป็นของคนไทย โดยขณะนี้มีบางมหาวิทยาลัยที่สนใจจะร่วมทำวิจัยด้วยกันแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำข้อตกลงกันอย่างเป็นทางการ "หากจะทำให้มีการนำพลังงานไฮโดรเจนมาใช้เป็นพลังงานทดแทนในประเทศไทยได้จริง รัฐบาลจะต้องเห็นความสำคัญและผลักดันอย่างจริงจัง สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจนให้มากกว่านี้ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างนักวิจัยให้มากขึ้น รวมทั้งสนับสนุนในการศึกษาของเยาวชนไทยตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้ไทยมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองทันเวลา" นายยศวัจน์ กล่าว ทั้งนี้ ชุดสื่อการเรียนรู้เชลล์เชื้อเพลิงและพลังงานไฮโดรเจน H-racer เคยได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมจากนิตยสารไทม์ในปี 2549 โดยมีราคาจำหน่ายชุดละ 10,000 บาท และเป็นหนึ่งในชุดสื่อการเรียนการสอนพลังงานทดแทนอีกหลายชุด ที่ผลิตโดยบริษัทฮอริซัน ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ผู้ผลิตเซลล์เชื้อเพลิงรายใหญ่ของโลก บริษัท ฮอริซอน เมโทรโพลิส จำกัด ได้นำชุดสื่อการเรียนการสอนพลังงานทดแทนรูปแบบต่างๆ, เซลล์เชื้อเพลิงขนาด 12-5,000 วัตต์, จักรยานพลังงานไฮโดรเจน และอื่นๆ ไปร่วมจัดแสดงและจำหน่ายในงาน "เวิลด์ไดแด็ค เอเชีย2009" (Worlddidac Asia 2009) งานแสดงเทคโนโลยี สื่อ และวัสดุอุปกรณ์ด้านการศึกษาและฝึกอบรมนานาชาติ ที่สมาคมเวิลด์ไดแด็ค ร่วมกับ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-30 ต.ค. 52 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พิเศษ! สำหรับผู้สนใจชุดอุปกรณ์การเรียนรู้ดังกล่าว ฮอริซอนจะมอบส่วนลด 10% เมื่อซื้อชุดสื่อการเรียนการสอนพลังงานทดแทนทุกรายการ ภายในงาน Worlddidac Asia 2009 พร้อมมอบของแถมอีกมากมาย |
ประวัติ พระแม่กาลี
ประวัติ พระแม่กาลี
พระแม่กาลี ได้แบ่งภาคจากการบำเพ็ญตบะของ พระอุมาเทวี (พระแม่อุมา)โดยทรงมีจุดประสงค์
เพื่อปราบอสูรตนหนึ่ง นามว่า อสูรทารุณ ความเป็นมามีอยู่ว่า อสูรทารุณนี้แม้ว่าจะถูกฆ่าสักกี่ครั้งก็ไม่มีวันตาย แล้วที่สำคัญกว่านั้นเมื่อ เลือดตกลงพื้นเมื่อใดก็จะทวีขึ้นเรื่อยไปไม่หมดสิ้น ความที่คิดว่ามีอิทธิฤทธิ์มากมาย ฆ่าไม่ตาย จึงทำให้อสูรทารุณเกิดฮึกเหิมในความเก่งกาจของตน จึงนำอิทธิฤทธิ์ ความเก่งกาจมาใช้ใน การกลั่นแกล้ง รังแกผู้คน เทวดาทั่วไป สุดท้ายก็คิดจะครอยครองโลกทั้งสาม เมื่อเป็นดังนี้ แล้วเหล่าเทวดา นางฟ้า ผู้ทรงศีลทั้งมวล จึงต้องนำเรื่องเข้าเฝ้าพระอิศวร เพื่อหาทาง ปราบอสูรตนนี้ เหล่าเทวดาทั้งหลาย เมื่อได้ฟังสรรพคุณของอสูร ก็ไม่มีใครกล้าอาสา
ออกไปสู้รบเลย
จนในที่สุด องค์พระศรีมหาอุมาเทวี เทพสตรีแห่งสวรรค์ ได้มีความประสงค์ที่จะออกปราบศัตรูร้าย ซึ่งพระองค์ได้ขอพรขอต่อองค์พระศิวะผู้เป็นเจ้า เพื่อให้ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ แล้วจึงเสด็จเพื่อ บำเพ็ญตบะทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ ให้มีฤทธิ์อำนาจปราบศัตรูร้ายได้ โดยได้กระทำพิธีในอุทยาน เขตแดนป่าหิมพานต์ โดยพระศรีมหาอุมาเทวีได้ทรงมอบหมายให้องค์ขันทกุมาร (หรือ พระสกันทะ ซึ่งเป็นโอรสอีกองค์หนึ่งของพระศิวะและพระแม่อุมาเทวี) รับหน้าที่ดูแลไม่ให้ใครย่างกรายเข้าไปในพิธีได้โดยเด็ดขาด |
image from photobucket.com |
เมื่อเวลาผ่านไป พระศิวะ จึงเสด็จเข้าไปใน
อุทยานเพื่อให้รู้แน่ว่าเกิดเหตุใดขึ้น พระองค์ ก็พบพระขันทกุมาร จึงสอบถามพระขันทกุมาร ว่าพระอุมาเทวีอยู่ที่ใด จะขอเข้าพบ พระขันทกุมารได้ฟังดังนั้น จึงกล่าว ตอบไป ด้วยความที่ทรงได้รับคำสั่ง จากพระอุมาเทวีก่อนเข้าบำเพ็ญตบะ ว่าห้ามมิให้ใครผู้ใดย่างกรายเข้าสู่ บริวณพิธีโดยเด็ดขาด จึงไม่สามารถ ให้พระศิวะผ่านเข้าไปในพิธีได้
(คล้ายกับกรณีพระพิฆเนศกับพระศิวะ)
เมื่อเป็นดังนั้นจึงเกิดการโต้เถียงขึ้น เลยเถิดถึงการปะทะกำลังกัน เหตุการณ์ ผ่านไปไม่น่านนักก็ถึงเวลาที่พระแม่อุมาเทวี บำเพ็ญตบะเสร็จ จึงได้เสด็จออกมา
แต่สิ่งที่ปรากฎกลายเป็นรูปกายที่เปลี่ยน
ไปจากเดิม เป็นพระแม่กาลี!! โดยองค์พระขันทกุมารเมื่อเห็นพระแม่กาลี ก็ทรงทราบได้ว่านี่คือพระมารดาของตน |
เมื่อพระแม่อุมาได้ฟังคำจากพระขัน
ทกุมารว่า พระศิวะไม่มีความเกรงใจ
และจะผ่านเข้าไปในพิธีให้ได้
จึงได้เกิดความโมโห ตาถลนออก
นอกเบ้า หน้าตาดุดัน แลบลิ้นยาว
น่าเกลียดน่ากลัว ทำปากแบะกว้าง
เห็นเขี้ยวโง้ว มีเลือดไหลจาก
มุมปากและตามมือและลำตัว
ส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่ว
ตรงเข้าหาพระศิวะทันทีด้วย
ความโมโห เมื่อพระศิวะเห็นถึง
กับผงะ ตกใจหนีไปอย่างไม่คิด
ชีวิตพระแม่กาลีก็ทรงไล่ตามเรื่อยจน
พระศิวะทรงพ้นจากเขตอุทยานไป
พระแม่กาลีจึงย้อนกลับไปหา
พระขันทกุมาร ด้วยเห็นถึง
ความซื่อสัตว์ จงรักภักดี ไม่ยอม
ผิดคำสัตย์ที่พระองค์ทรงมอบหมาย
ให้ถึงแม้นว่าจะเป็นพระบิดาของตนก็
ตาม เหตุการณ์นี้จึงเป็นที่พอพระทัยแก่
พระแม่กาลีเป็นอย่างยิ่ง
| ![]()
image from photobucket.com
|
![]() image from photobucket.c |
จากนั้น พระแม่กาลีจึงรีบเสด็จออกจากอุทยาน
เพื่อตามล่าสังหารอสูรทารุณ ซึ่งไม่นานพระแม่กาลีก็ไ ด้เผชิญหน้ากับอสูรทารุณ และด้วยฤทธิ์อำนาจของทั้ง 2 ฝ่าย การต่อสู้ที่ยาวนานจึงเกิดขึ้นจังหวะที่พระแม่กาลีทรงใช้ ดาบฟันคออสูรขาด เลือดของอสูรก็หยดลงพื้น อสูรจำนวน มากจึงผุดขึ้นมาจากหยดเลือดเหล่านั้นอสูรที่เพิ่มทวี ขึ้นเรื่อยๆตามหยดเลือดของอสูรทารุณ พระแม่กาลีเห็น ดังนั้นจึงคิดว่าคงไม่มีวันฆ่าอสูรตนนี้ให้ตายได้เป็นแน่ พระแม่กาลีจึงคิดกลอุบายเพื่อเอาชัยชนะในครั้งนี้ให้ได้ โดยการตัดหัวของอสูรพร้อมทั้งดูดกินเลือดอสูรก่อนที่เลือด จะตกลงพื้น เมื่อกินจนหมดสิ้นแล้ว รูปกายของพระแม่กาลี จึงอ้วนใหญ่ ในมือนั้นถือหัวของอสูรที่ตัด
ร้อยเป็นพวงไว้ อสูรทารุณจึงสิ้นฤทธิ์ลงด้วยเหตุนี้
|
ด้วยความดีพระทัยที่ทรงได้รับชัยชนะในครั้งนี้ พระแม่กาลีจึงเต้นระบำอย่างสำราญหทัยที่สุด จนลืมพระองค์ ทรงยกพระบาทขึ้นหมายจะกระทืบลงพื้นโลกอย่างเต็มแรง!!
ชั่วระยะเวลานี้ เหล่าเทวดาทั้งหลายเห็นดังนั้นก็คิดว่าเมื่อพระแม่กาลีกระทืบพระบาทลงพื้น พื้นโลกคงแตกสลายสร้างความเดือดร้อนเป็นแน่แท้ จึงรีบพากันเข้าเฝ้าพระศิวะอย่างเร่งด่วน พระศิวะได้ฟังคำจากเหล่าเทวดาจึงได้ตะหนักว่า พระแม่กาลีที่มีรูปกายน่าเกลียดน่ากลัวนั้น แท้จริงควรจะเกรงใจพระองค์และจดจำพระองค์ได้บ้าง คิดได้ดังนั้นจึงเสด็จไปอย่างรวดเร็ว และไปนอนขวางพื้นโลกไว้ พระแม่กาลีก้มลงเห็นพระศิวะนอนขวางอยู่จึงชะงักด้วยความเกรง อกเกรงใจพระสวามี จึงไม่กล้ากระทืบพระบาทลงพื้นดิน และหยุดการกระทำนั้นลง เหล่าเทวดาทั้งหลายจึงโล่งอก พระแม่กาลีแปลงร่างกลับคืนสู่สภาวะปกติ เหตุการณ์จึงจบลงฉะนี้... |
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ คุณรุ่งรัตน์ มีทรัพย์ นิกแนม สายฝน
ลืมตาดูโลก พุธ 8 ตุลาคม 2518 ปี ชวด เป็น ไทยพุทธ
ชื่อ คุณแม่วรรณสิริ มีทรพัย์ เป็นแม่บ้านทั่วไป ชื่อ คุณพ่อสุนทร มีทรัพย์ ละโลกใบนี้แล้ว
มีน้องชาย 1 คน ชื่อชายนิติพงษ์ มีทรัพย์ ทำงานโรงพิมพ์
ที่พักอาศัย หมู่บ้านพฤษภา 4 เลขบ้าน 40/360 ต. บางแม่นาง อ. บางใหญ่ จ. นนทบุรี
ระดับการศึกษา ปริญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขา การจัดการทั่วไป
ที่ทำงาน
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
อยู่งาน
งานกิจการนักศึกษา สังกัดการศึกษา
ตำแหน่ง นักกิจการนักศึกษา
ภาระงาน ที่ปรึกษาการทำกิจกรรมนักศึกษา
ที่ตั้งคณะฯ 270 ถ.พระราม 6 ราชเทวี พญาไท 10400

ภาพกิจกรรมของนักศึกษา
สิ่งที่นับถือและบูชา
พระแม่กาลี
![]() |

สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)





